11 จุดเที่ยวปากพูน One Day Trip ชม ชิม ร่วมกิจกรรมสนุก ๆ เสน่ห์ปากพูน นครศรีธรรมราช

ใครที่ชอบการท่องเที่ยวในรูปแบบของการชมธรรมชาติหรือการท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสวิถีชุมชน “ปากพูน” เป็นอีกหนึ่งแห่งที่มีความน่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะปากพูนเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ในทุกด้านและเป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรมและวิถีชุมชนที่น่าสนใจ และด้วยการสนับสนุนจากการปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผลักดันให้เกิด “วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวปากพูน” จึงยิ่งทำให้พื้นที่นี้มีเสน่ห์ที่น่าสนใจและน่าค้นหา ปากพูนมีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง บทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักจุดเช็กอินที่น่าสนใจทั่วปากพูนกันให้มากขึ้น

11 จุดเที่ยวปากพูน One Day Trip

1. ตลาดท่าแพ

ตลาดท่าแพเป็นตลาด 100 ปีที่ยังคงเสน่ห์ของความเป็นตลาดบ้าน ๆ ที่น่าสนใจ โดยตัวตลาดมีรูปแบบเป็นตลาดเช้าที่จัดว่าเป็นแหล่งรวมของอร่อยสำหรับคนที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตและอาหารท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ที่นี่มีจำหน่ายทั้งอาหารสดและอาหารสำเร็จรูปปรุงสุกใหม่ โดยช่วงเวลาที่แนะนำสำหรับการมาเยี่ยมเยียนตลาดแห่งนี้คือช่วงเวลาตั้งแต่ 6.00 – 7.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำลังดีและไม่เช้าจนเกินไป

2. วัดท่าแพสักการะองค์หลวงปู่ทวด

วัดท่าแพเป็นอีกหนึ่งวัดเก่าที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีเรื่องเล่าว่าเป็นวัดที่หลวงปู่ทวดได้อุปสมบทบนเรือที่ถูกนำมาต่อเป็นแพกลางน้ำจึงได้ชื่อว่า ท่าแพ มาตั้งแต่สมัยนั้น จุดแลนด์มาร์กที่สำคัญจึงเป็นศาลากลางน้ำซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อขององค์หลวงปู่ทวดที่มีคนเข้ามาสักการะกันอย่างไม่ขาดสาย

3. ล่องเรืออุโมงค์ Amazon ชมธรรมชาติของซุ้มโกงกางและสัตว์น้ำชายฝั่ง

สำหรับสายธรรมชาติต้องไม่พลาดการล่องเรือเยี่ยมชมอุโมงค์ Amazon ซุ้มโกงกางที่มีความร่มรื่นตลอดเส้นทาง 2 ฝั่ง ซึ่งนอกเหนือไปจากการล่องเรือที่นี่ยังมีบริการให้เช่าเรือคายัคสำหรับสายลุยที่ต้องการสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติด้วยจนเองเป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดหากมาเยี่ยมเยียนที่ปากพูน

4. วัดไพศาลสถิต

วัดไพศาลสถิตเป็นอีกหนึ่งวัดเก่าที่มีความสวยงาม โดยจุดสำคัญที่เป็นแลนด์มาร์คของที่นี่มีอยู่ด้วยกัน 2 จุดคือโบสถ์เก่าที่มีต้นโพธิ์และต้นไทรปกคลุมทั้งโบสถ์ที่ให้ความสวยงามคล้ายคลึงกับวัดที่อยุธยาและอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คก็คือหลวงพ่อปากแดงอันศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนทั่วไปมักจะเข้ามาขอพรในเรื่องของความรักนั่นเอง

5. ผาสุขดินเผา

สำหรับใครที่ชื่นชอบการสัมผัสกับวิถีชุมชน ผาสุกดินเผาเป็นที่ที่คุณไม่ควรพลาด โดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมเยียนจะได้เข้ามาศึกษาวิธีการปั้นเครื่องปั้นดินเผาและได้ลงมือทำเครื่องปั้นดินเผาด้วยตนเอง โดยสิ่งที่สร้างความประทับใจคือที่ผาสุกดินเผาจะต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยน้ำผึ้งมะนาวใส่โอ่งเย็น ๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถนำโอ่งที่ใส่น้ำเก็บไปเป็นที่ระลึกได้

6. โรงเหนียวยายศรี

อีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คที่สายคาเฟ่ต้องไม่พลาด โรงเหนียวยายศรีคือแหล่งผลิตเหนียวห่อกล้วยหรือข้าวต้มมัดรวมถึงขนมโบราณหลายชนิดที่ขึ้นชื่อของปากพูน นอกจากจะขายที่หน้าร้านโรงเหนียวยายศรียังมีบริการในช่องทางออนไลน์ ไฮไลท์สำคัญคือนักท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสลองห่อข้าวเหนียวด้วยตนเอง

7. สวนมะพร้าวแม่ทองพริ้ง

สวนมะพร้าวแม่ทองพริ้งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชนที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง โดยกิจกรรมหลักที่นักท่องเที่ยวจะได้รับคือการดื่มน้ำช่อดอกมะพร้าวจากต้นแบบสด ๆ ซึ่งหากนักท่องเที่ยวรวมกลุ่มกันเข้ามามากว่า 5 คนขึ้นไปทางเจ้าของสวนจะลงมือทำขนมโคให้กินกันสด ๆ

8. ความสุขชาวเล

ความสุขชาวเลเป็นกลุ่มประมงพื้นบ้านที่รวมกลุ่มกันในการทำการประมง เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชนที่ได้รับความสนใจไม่น้อย สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือการรับประทานอาหารเที่ยงที่ทางกลุ่มจัดเตรียมไว้เป็นอาหารทะเลสดตามฤดูกาลที่สร้างความประทับใจไม่น้อยทีเดียว

9. One more thai craft chocolates

One more thai craft chocolates เป็นโรงงานผลิตช็อกโกแลตที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปากพูนและเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งนอกจากที่นักท่องเที่ยวจะได้เข้ามาเยี่ยมชมตัวโรงงานผลิต กรรมวิธีการผลิตช็อกโกแลต ทาง One more thai craft chocolates ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสทดลองทำช็อกโกแลตด้วยตนเองเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจเช่นกัน

10. โรงแกะหนังตะลุงของลุงทวี

หากใครชื่นชอบหนังตะลุงศิลปะขึ้นชื่อของภาคใต้ต้องไม่พลาดโรงแกะหนังตะลุงของลุงทวี โรงแกะหนังตะลุงที่บอกเล่าและสะท้อนเรื่องราวของวัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคใต้ นอกจากที่นักท่องเที่ยวจะได้ศึกษาเรื่องราวของหนังตะลุงที่นี่ยังมีของที่ระลึกสวย ๆ วางจำหน่ายรวมถึงเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองแกะหนังตะลุงด้วยตนเอง

11. สวนคำสิงห์

สวนคำสิงห์เป็นสวนผลไม้ในพื้นที่ปากพูนโดยสวนแห่งนี้มีจุดเด่นที่การปลูกผลไม้ขึ้นชื่อไม่ว่าจะเป็นฝรั่งกิมจู ส้มโอทับทิมสยามและมะพร้าวซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสชิมฝรั่งกิมจูและส้มโอทับทิมสยามกันอย่างสด ๆ หรือหากใครต้องการซื้อกลับไปเป็นของฝากที่สวนก็มีจำหน่ายกันแบบสด ๆ เก็บจากต้นและยังมีกิจกรรมพายเรือ ให้อาหารแพะ แกะ ปลา รวมถึงนักท่องเที่ยวสามารถมากางเต็นท์ที่สวนได้อีกด้วย

หากใครที่ต้องการท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชุมชนและธรรมชาติวิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชนปากพูนยินดีต้อนรับ

หากใครที่ต้องการท่องเที่ยวตามสถานที่แลนด์มาร์คในปากพูน วิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชนมีบริการนำเที่ยวเพื่อพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสบรรยากาศยังสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในปากพูนในรูปแบบ one-day trip โดยมีบริการรถสองแถวรับส่งตั้งแต่ตัวสนามบิน นักท่องเที่ยวสามารถรวมกลุ่มกันมาท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยมีค่าใช้จ่ายต่อท่านเพียง 1,450 บาทเท่านั้น นอกจากที่นักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมสถานที่แลนด์มาร์คก็ยังมีโอกาสร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่แต่ละสถานที่จัดขึ้น นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 0926565298 วิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชนปากพูนพร้อมให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่สนใจ

โรงเหนียวยายศรี ข้าวต้มมัดสูตรโบราณ 70 ปี จากราคา 25 สตางค์สู่ส่งออกคู่ละ 400 บาท

ข้าวต้มมัดเป็นขนมโบราณที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เป็นของตนเอง โดยข้าวต้มมัดของแต่ละชุมชนก็มีสูตรเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป แต่เมื่อไม่มีผู้สืบต่อข้าวต้มมัดที่เป็นสูตรเฉพาะในหลายพื้นที่ก็ค่อย ๆ สูญหายไปตามกาลเวลา แต่ใครจะเชื่อว่าขนมที่มีแนวโน้มจะสูญหายไปนี้กลับทวีมูลค่าอย่างมหาศาลและกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างชื่อให้กับชุมชน จนถูกเรียกว่า “เหนียวห่อกล้วยเปลี่ยนชีวิต” ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับโรงเหนียวยายศรีเจ้าของสูตรข้าวต้มมัดหรือเหนียวห่อกล้วยส่งออกที่มีมูลค่าถึง 400 บาทในต่างแดน

โรงเหนียวยายศรี สูตรเด็ดเคล็ดลับในวัยเด็กสู่เหนียวห่อกล้วยพลิกชีวิต

“ยายศรีหรือคุณยายบุญศรี นางนวล” คือเจ้าของโรงเหนียวยายศรี ข้าวต้มมัดหรือเหนียวห่อกล้วยสูตรโบราณในอ.ปากพูน นครศรีธรรมราช โดยสูตรลับของเหนียวห่อกล้วยสูตรยายศรีมีที่มาจากคุณแม่ของตัวคุณยายเอง โดยในวัยเด็กคุณยายศรีต้องช่วยคุณแม่ทำเหนียวห่อกล้วยขาย โดยขายในราคา 25 สตางค์ในสมัยนั้น คุณยายศรีก็สืบทอดสูตรเหนียวห่อกล้วยเรื่อยมาจนครั้งหลังสุดที่ขายคือขายในราคา 2 บาท

หลังจากนั้นด้วยความที่คุณยายศรีต้องเลี้ยงดูลูก ๆ เพียงลำพังและการขายเพียงเหนียวห่อกล้วยไม่สามารถสร้างรายได้ที่มากพอได้ คุณยายศรีจึงย้ายครอบครัวไปอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์และเปลี่ยนอาชีพเป็นขายข้าวแกง จนกระทั่งเมื่อลูก ๆ ของยายศรีโตพอคุณยายจึงย้ายบ้านกลับมาอยู่ที่ปากพูนอีกครั้ง

โควิดเป็นเหตุสู่การรื้อฟื้นสูตรเหนียวห่อกล้วยจนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

ในช่วงเวลาก่อนเกิดโควิดเพียงเล็กน้อย เพื่อนของหลานสาวคุณยายศรีได้ติดต่อมาเพื่อขอให้ยายศรีทำเหนียวห่อกล้วยส่งมาที่กรุงเทพ เพราะเพื่อของหลานยายศรีเคยมีโอกาสได้ทานเหนียวห่อกล้วยฝามือคุณยายศรีแล้วชอบ ปรากฏว่าเหนียวห่อกล้วยายศรีเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่มีโอกาสได้ทานจึงขอให้ยายศรีทำเพิ่มแล้วหาวิธีส่งมายังกรุงเทพเพื่อนำมาช่วยขายสร้างรายได้ จากจุดเริ่มต้นเพียง 3 กิโลกรัมคุณยายศรีต้องส่งเพิ่มเป็น 10 กิโลกรัม โดยคุณยายศรีต้องเกณฑ์พี่น้องและเพื่อน ๆ ให้มาช่วยกันทำเหนียวห่อกล้วยในครั้งนั้น

เมื่อเกิดวิกฤติโควิด เหนียวห่อกล้วยของยายศรีเป็นสินค้าหนึ่งที่ได้รับผลกระทบในด้านบวก จากการที่คนทั่วไปไม่ค่อยออกจากบ้านและเริ่มสั่งสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้เหนียวห่อกล้วยของยายศรีมีโอกาสถูกส่งไปจำหน่ายทั่วประเทศนวมถึงที่ประเทศพม่าในช่องทางออนไลน์โดยมีหลานเป็นคนช่วยในเรื่องการขายนี้ โดยในวันหนึ่ง ๆ ยายศรีต้องทำเหนียวห่อกล้วยถึง 80 กิโลกรัมจึงจะพอจำหน่าย

สูตรเด็ดความอร่อยของเหนียวห่อกล้วยยายศรีอยู่ที่การนำข้าวเหนียวมาผัดกับกะทิ และการใช้กล้วยที่มาจากในอำเภอปากพูนเพราะเป็นกล้วยที่ไม่มีเม็ด มีความเหนียวและอร่อยต่างจากกล้วยที่มาจากแหล่งอื่น

เมื่อโควิดซาลงทำให้ช่องทางออนไลน์มีรายได้ลดลงสู่การตั้งเป็นโรงเหนียวยายศรี

เมื่อโควิดเริ่มซาลง คนเริ่มใช้ชีวิตออกจากบ้านมากขึ้นทำให้ยอดการสั่งเหนียวห่อกล้วยลดลงอย่างชัดเจน ยายศรีและหบานจึงมองหาทางออกซึ่งพอดีกับที่ยายศรีมีบ้านหลังหนึ่งที่ซื้อเอาไว้โดยตั้งใจว่าจะเอาไว้เป็นที่พักอาศัยส่วนตัว เมื่อตกตะกอนทางความคิดกันได้แล้วยายศนีและหลายจึงมีความเห็นร่วมกันว่าจะนำบ้านหลังนี้มาปรับปรุงให้กลายเป็นคาเฟ่ที่จำหน่ายเหนียวห่อกล้วยรวมถึงอาหารและขนมโบราณอื่น ๆ จึงเป็นที่มาของ “โรงเหนียวยายศรี” เหนียวห่อกล้วยเปลี่ยนชีวิตในที่สุด

เหนียวห่อกล้วยของโรงเหนียวยายศรีได้รับการโอกาสในการสนับสนุนและประชาสัมพันธ์จากทางนายกเทศมนตรีเมืองปากพูนที่มีโครงการจัดตั้ง “ตลาดท่องเที่ยวชุมชน” โดยผลิตภัณฑ์จากโรงเหนียวยายศรีได้รีบการชักชวนให้นำไปวางจำหน่ายซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวจากที่ต่าง ๆ รู้จักโรงเหนียวยายศรีมากยิ่งขึ้น

ปรับปรุง คิดค้นและพัฒนาสูตรจนกลายเป็นสินค้าส่งออกยังต่างแดน

แม้ว่าเหนียวห่อกล้วยจะเป็นสินค้าขึ้นชื่อของโรงเหนียวยายศรี แต่กระนั้นยายศรีก็ยังไม่หยุดคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองจนในที่สุดโอกาสครั้งสำคัญก็มาถึงเมื่อผลิตภัณฑ์ของโรงเหนียวยายศรีได้รับโอกาสให้ไปวางขายยังต่างแดนที่แคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกาโดยใช้วิธีการแช่แข็งส่งออกไป และแทบไม่น่าเชื่อว่าจากข้าวต้มมัดราคาคู่ละ 20 บาทในประเทศจะทวีมูลค่าไปถึง 400 บาทเลยทีเดียว นอกจากประเทศอเมริกาแล้ว ฟินแลนด์ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ผลิตภัณฑ์ของโรงเหนียวยายศรีได้มีโอกาสไปวางจำหน่าย โดยอนาคตยายศรีมีแผนการที่จะส่งผลิตภัณฑ์จากโรงเหนียวยายศรีไปวางจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น

หากใครที่สนใจอยากลิ้มลองของดีขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของปากพูน โรงเหนียวยายศรียินดีต้อนรับ

โรงเหนียวยายศรีอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น หากนักท่องเที่ยวท่านใดสนใจอยากเข้าไปแวะชิมผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของปากพูน หรือต้องการเข้าไปให้กำลังใจผู้สูงอายุที่ยังคงรวมกลุ่มกันทำขนมโบราณเพื่อสืบทอดขนมสูตรเด็ดเอาไว้ไม่ให้สูญหายไปไหน “โรงเหนียวยายศรี” ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านให้แวะเวียนเข้ามาได้ทุกเมื่อโดยนอกจากจะมีขนมและอาหารอร่อย ๆ ไว้ให้บริการแล้วทางโรงเหนียวยายศรียังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างการสอนห่อข้าวต้มมัดให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจได้ลงมือทำด้วยตนเองอีกด้วย

โรงเหนียวยายศรีตั้งอยู่ที่ 221/2 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 9:00-17:30 น.

รีวิว 10 ที่พักนครศรีธรรมราชในตัวเมือง ราคาต่ำ 1,000

นครศรีธรรมราชเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่น่าสนใจในการท่องเที่ยว ด้วยเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์จึงส่งผลให้เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจกระจายอยู่ไปทั่วจังหวัด สิ่งเหล่านี้คือเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในจังหวัดนี้ เมื่อคุณต้องการที่จะมาท่องเที่ยวที่นครศรีธรรมราชสิ่งแรกที่คุณมักจะเตรียมวางแผนเอาไว้ก็คือการมองหาที่พัก ในบทความนี้เราจะมีแนะนำที่พักที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหาที่พักในตัวเมืองนครศรีธรรมราช

รีวิว 10 ที่พักนครศรีธรรมราชในตัวเมือง ราคาต่ำ 1,000

1. บีทู นครศรีธรรมราช พรีเมียร์ โฮเต็ล

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com   |    จองที่พักกับ Nakhonsistation

ที่แรกที่เราจะมาทำการรีวิวกันก็คือ “บีทู นครศรีธรรมราช พรีเมียร์โฮเต็ล” โรงแรม 4 ดาวที่มีที่ตั้งอยู่ในย่านตัวเมือง ใกล้กับศูนย์การค้าสหไทยพลาซ่าและห้างสรรพสินค้าโรบินสัน-โอเชี่ยน จึงทำให้การเดินทางมายังที่พักแห่งนี้สะดวกสบาย นอกจากจะอยู่ย่านตัวเมืองในเรื่องของบรรยากาศที่พักก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ให้บรรยากาศของความเป็นกันเอง ทางโรงแรมยังเตรียมพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันรวมถึงฟรี Wi-Fi และที่จอดรถเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเข้าพัก

ราคา : เริ่มต้น 488 บาท/คืน
ที่อยู่ : 1584/23 ถนนศรีปราชญ์ ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com |    จองที่พักกับ Nakhonsistation

2. แลคอน-นอนบาย

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com |  จองที่พักกับ Nakhonsistation

ที่พักที่มีชื่อสุดชิคในรูปแบบของโรงแรม 3 ดาวที่มีทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านตัวเมือง ใกล้กับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุและอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 14 กม. แม้จะเป็นโรงแรมย่านกลางเมืองแต่ทว่าก็มีบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน จุดเด่นของโรงแรมนี้ก็คือมี Rooftop ที่สามารถนั่งพักผ่อนฟังดนตรีสดไปพร้อม ๆ กับการชมวิววัดพระมหาธาตุไปพร้อม ๆ กัน

ราคา : เริ่มต้น 982 บาท/คืน
ที่อยู่ : 56/2 ซอยหมู่บ้านพิกุลแก้ว ถนนพัฒนาการคูขวาง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000

จองที่พักกับ Agoda | จองที่พักกับ Trip.com | จองที่พักกับ Nakhonsistation

3. โรงแรมปุระนคร

จองที่พักกับ Agoda | จองที่พักกับ Trip.com |  จองที่พักกับ Nakhonsistation

เป็นอีกหนึ่งที่พักย่านตัวเมืองที่เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ที่น่าสนใจเพราะอยู่ใกล้ร้านค้าและร้านอาหาร โรงพยาบาลนครินทร์รวมถึงสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช  บรรยากาศภายในก็มีความเป็นส่วนตัวจึงเหมาะอย่างมากสำหรับการพักผ่อน นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกแล้วทางโรงแรมยังมีบริการอาหารเช้า สปา ฟิตเนส และที่จอดรถไว้คอยให้บริการอีกด้วย

ราคา : เริ่มต้น 476 บาท/คืน
ที่อยู่ : 342 ถนนราชนิคม ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com |  จองที่พักกับ Nakhonsistation

4. ฮ็อป อินน์ นครศรีธรรมราช

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com |  จองที่พักกับ Nakhonsistation

หากใครที่กำลังมองหาที่พักย่านกลางเมืองในราคาประหยัด ฮ็อป อินน์ นครศรีธรรมราชถือว่าตอบโจทย์ตรงกับความต้องการของคุณ นอกจากที่ราคาจะสบายกระเป๋า ตัวของโรงแรมยังอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกโดยอยู่ใกล้สถานีรถไฟและวัดพระมหาธาตุวรวิหารรวมถึงร้านค้าและร้านอาหารมากมาย

ราคา : เริ่มต้น 535 บาท/คืน
ที่อยู่ : 59 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000

จองที่พักกับ Agoda   | จองที่พักกับ Trip.com |  จองที่พักกับ Nakhonsistation

5. โรงแรมเอ็มดีแกรนด์ นครศรีธรรมราช

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com |  จองที่พักกับ Nakhonsistation

อีกหนึ่งโรงแรมระดับ 3 ดาวที่มีทำเลอยู่ย่านตัวเมืองบนถนนพัฒนาการคูขวาง อยู่ใกล้กำแพงเมืองเก่ และวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร รวมไปถึงร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ทางโรงแรมมุ่งเน้นที่การสร้างบรรยากาศให้ดูเป็นกันเองพนักงานทุกคนจึงพร้อมให้บริการด้วยความเป็นมิตรจึงเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่น่าสนใจและเหมาะแก่การพักผ่อน

ราคา : เริ่มต้น 475 บาท/คืน
ที่อยู่ : 102,102/3-8 ซอย 17 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ท่าวัง อ.เมือนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com|  จองที่พักกับ Nakhonsistation

6. เมืองลิกอร์

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com |   จองที่พักกับ Nakhonsistation

ใครที่ชื่นชอบการตกแต่งในสไตล์ที่เรียบง่ายต้องไม่พลาดโรงแรมเมืองลิกอร์โรงแรมที่ดูเรียบง่ายแต่ภายในต
กแต่งได้อย่างอย่างสวยงาม เน้นเรื่องราว เรื่องเล่า ประเพณี วัฒนธรรมคนนครศรีธรรมราช ให้ได้ดื่มด่ำสัมผัสความเป็นคนนครศรีธรรมราชกันได้ในทุกมุมห้อง ที่นี่เป็นให้บริการแบบ Green Business รักษ์โลก

นอกจากความเรียบง่ายในการตกแต่งก็คงจะเป็นทำเลที่ตั้งที่รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารรวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายสถานที่ ตัวโรงแรมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงบริการนวดและสปาไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาพักผ่อนอย่างแท้จริง
ราคา : เริ่มต้นที่ 842 บาท/คืน
ที่อยู่ : 1488 ถ.ศรีปราชญ์ ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com|  จองที่พักกับ Nakhonsistation

7. โรงแรมออริจินัล ออเรนจ์ นครศรีธรรมราช

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com |  จองที่พักกับ Nakhonsistation

เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวย่านตัวเมืองนครศรีธรรมราชที่อยู่ใกล้กับวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารนี้ถูกตกแต่งให้บรรยากาศที่ดูเป็นกันเอง เงียบสงบและน่าพักผ่อน นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทางโรงแรมยังมีบริการห้องอาหาร อาหารเช้ารวมถึงคอฟฟี่ช็อป หรือหากใครอยากไปลิ้มรสอาหารท้องถิ่น รอบ ๆ โรงแรมก็ยังมีร้านอาหารและร้านค้าหลายร้านให้คุณได้เลือกเช่นกัน

ราคา : เริ่มต้น 490 บาท/คืน
ที่อยู่ : 6/37-40 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com|  จองที่พักกับ Nakhonsistation

8. โรงแรมแมนดี้นก นครศรีธรรมราช

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com |   จองที่พักกับ Nakhonsistation

โรงแรม 3 ดาวที่อยู่ในซอยอำนวยสุข 24 ถนนพัฒนาการคูขวางนี้อยู่ใกล้วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารและสถานีรถไฟนครศรีธรรมราชจึงเป็นอีกหนึ่งที่พักที่เดินทางสะดวก ภายในโรงแรมตกแต่งด้วยศิลปะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด จิตรกรรมและประติมากรรมในทุกที่ของโรงแรม จึงทำให้ บรรยากาศภายในดูอบอุ่นและเป็นกันเอง เสน่ห์อีกอย่างคือการนำเอาผ้าปาเต๊ะซึ่งเป็นผ้าพื้นเมืองของภาคใต้มาใช้ในการตกแต่งห้องพักได้อย่างสวยงามลงตัว นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกทางโรงแรมยังมีห้องอาหารสกุณาซึ่งเป็นห้องอาหารที่เสิร์ฟอาหารเช้าและอาหารพื้นเมืองของภาคใต้ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติอีกด้วย

ราคา : เริ่มต้น 891 บาท/คืน
ที่อยู่ : เลขที่ 8 ซอยอำนวยสุข 24 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com |  จองที่พักกับ Nakhonsistation

9. iBiz Boutique Hotel

จองที่พักกับ Agoda | จองที่พักกับ Trip.com |  จองที่พักกับ Nakhonsistation

เป็นอีกหนึ่งที่พักที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากเพราะมีร้านค้าและร้านอาหารมากมายหลายร้านรายรอบบริเวณโรงแรม ตัวโรงแรมอยู่ใกล้กำแพงเมืองเก่าและสถานีรถไฟนครศรีธรรมราชจึงทำให้การเดินทางมีความสะดวก ภายในตกแต่งจนทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย ภายนอกตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นที่ทันสมัย นอกจากจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันทางโรงแรมยังมีบริการห้องอาหาร บริการนวดผ่อนคลายรวมถึงฟิตเนสไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่มาเข้าพัก

ราคา : เริ่มต้น 688 บาท/คืน
ที่อยู่ : 243/83 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com |  จองที่พักกับ Nakhonsistation

10. โรงแรมเดอะเทอเรส นครศรีธรรมราช

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com|   จองที่พักกับ Nakhonsistation

โรงแรมระดับ 3 ดาวที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายและรายล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียวที่ให้บรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนนี้มีทำเลอยู่ใกล้กับวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารและสนามบินนครศรีธรรมราช จึงทำให้การเดินทางมีความสะดวกสบาย ใครที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัวในบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายก็ต้องบอกว่าเดอะเทอเรส นครศรีธรรมราชตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดี

ราคา : เริ่มต้น 585 บาท/คืน
ที่อยู่ : 109/17 หมู่ 5 ถนนอ้อมค่ายวชิราวุธ ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000

จองที่พักกับ Agoda  | จองที่พักกับ Trip.com|   จองที่พักกับ Nakhonsistation

ที่พักทั้ง 10 แห่งที่เราแนะนำนี้คือที่พักนครศรีธรรมราชในตัวเมืองที่น่าสนใจที่คุณสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและยังใกล้แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัด หากคุณต้องการการพักผ่อนอย่างมีระดับ 10 ที่พักแห่งนี้ถือได้ว่าตอบโจทย์ได้อย่างดีแต่หากคุณอยากได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย “นครศรีธรรมราช” คือหมุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด!

เที่ยว 4 อิ่ม !!! ชุมชนปากพูน นครศรีธรรมราช

ในจังหวัดนครศรีธรรมราชยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่รอให้คุณเข้าไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้งการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติเพื่อสัมผัสกับความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมตามรอยความยิ่งใหญ่ในอดีต รวมไปถึงการท่องเที่ยวในแนวทางวิถีชุมชนเพื่อเปิดประสบการณ์การดำเนินชีวิตของแต่ละชุมชน การท่องเที่ยวในทุกรูปแบบนี้มีอยู่ทั่วในจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ยังคงมีที่แห่งหนึ่งที่น่าสนใจและพร้อมจะเปิดประสบการณ์สุดประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชม ที่แห่งนี้ก็คือปากพูน เมืองแห่ง “ความอิ่ม” ที่ทุกคนต้องมาสัมผัส

อิ่มบุญ อิ่มใจ อิ่มท้อง อิ่มวิถีชุมชนที่ทุก ๆ คนจะต้องมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต

ภายใต้แนวคิดความอิ่ม เมืองปากพูน เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความน่าสนใจเพราะมีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมในแต่ละกิจกรรม ซึ่งต้องบอกว่ากิจกรรมส่วนมากคือกิจกรรมที่เป็นวิถีชาวบ้านที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน เริ่มตั้งแต่

อิ่มบุญ อิ่มใจ  เช่นการตักบาตรในยามเช้าเพื่อเติมพลังบุญให้อุ่นใจ วิถีชีวิตเรียบง่ายที่อาจหาได้ยากในสังคมเมืองในปัจจุบัน โดยชาวบ้านจะเตรียมอาหารคาวหวานเพื่อออกมาใส่บาตรกันในช่วงเช้ากับพระที่ออกมารับบิณฑบาตเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยจิตใจที่ผ่องใส

หากใครอยากจะไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องไปที่วัดไพศาลสถิต โดยจุดเด่นของวัดนี้อยู่ที่มีโบสถ์เก่าแก่โบราณที่โอบอุ้มด้วยต้นโพธิ์ ต้นไทร เป็นภาพความสวยงามและสัมผัสได้ถึงความขลังและเก่าแก่ของวัดนี้ได้เป็นอย่างดี หรือหากใครต้องการขอพรในเรื่องของความรักแนะนำให้มาสักการะหลวงพ่อปากแดงที่ชาวบ้านเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อก็ได้เช่นกัน

อิ่มท้อง เพราะความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ชาวบ้านในพื้นที่ทุกคนอนุรักษ์และหวงแหนไว้ ทำให้ปากพูนเป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้อาหารการกินของเมืองนี้ไม่เคยขาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเลสด ๆ จับกันสด ๆ รสชาติหวานอร่อยถูกปากเป็นอย่างยิ่ง อาหารทะเลขึ้นชื่อของที่นี่ก็อาทิเช่นหมึก กุ้งรวมถึงปูดำที่นำไปทำอาหารได้หลากหลาย

หากใครอยากลิ้มลองอาหารวิถีชาวบ้านว่าคนที่นี่เขากินอยู่กันอย่างไร ตลาดท่าแพตลาดโบราณ 100 ปี คือคำตอบ ในตลาดแห่งนี้มีอาหารสดจำหน่ายหลากหลายทั้งผักออร์แกนิค อาหารทะเล รวมไปถึงอาหารคาวหวานรสชาติถูกปากทั้งขนมครก หมี่ผัด ขนมกรอบ ขนมเบื้องญวนและชาโบราณ

แต่หากใครอยากสัมผัสกับการทานอาหารทะเลกันสด ๆ ในบรรยากาศดี ๆ ต้องไปลองอิ่มท้องด้วยข้าวมันทะเลที่ทานกันสด ๆ กลางป่าโกงกางก็ให้บรรยากาศที่ดีไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะการได้ทานข้าวมันที่หุงอย่างพิถีพิถันร่วมกับปูดำตัวโต ๆ และกุ้งเนื้อเน้น ๆ ที่นอกจากจะเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ก็ยังสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวมิรู้ลืม

อิ่มวิถีชุมชน จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของปากพูนก็คือการท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชนที่ให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสลงไปสัมผัสวิถีการดำเนินชีวิตของครในชุมชนอย่างใกล้ชิดทั้งยังมีโอกาสร่วมกิจกรรมตามที่แต่ละชุมชนจัดไว้เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว หากใครนิยมชมชอบเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา บ้านผาสุกดินเผา คือสถานที่แรกที่คุณต้องไปเพื่อเรียนรู้วิถีชุมชนคนทำเครื่องปั้นดินเผารวมไปถึงภาชนะดินเผาต่าง ๆ

หรือหากใครกำลังมองหาของฝากของดีจากเมืองปากพูน น้ำตาลจากมะพร้าว คือหนึ่งในของฝากที่คุณไม่ควรพลาด เพราะถูกขนานนามว่าเป็นถึงคาราเมลของเมืองไทย กรรมวิธีการผลิตคือการนำน้ำตาลสดมาเคี่ยวให้ได้ที่จนได้เป็นน้ำตาลมะพร้าวหอมหวานซึ่งบางชุมชนก็จัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมกรรมวิธีการผลิตและร่วมกิจกรรมเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวอย่างใกล้ชิด หรือหากใครอยากได้น้ำผึ้งคุณภาพดีเป็นของฝากติดไม้ติดมือ น้ำผึ้งสีน้ำอ้อย เป็นอีกหนึ่งของฝากที่ได้นับความนิยมและถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวหล่ย ๆคน น้ำผึ้งสีน้ำอ้อยเป็นน้ำหวานจากธรรมชาติที่ได้จากป่าชายเลน เป็นน้ำผึ้งเดือน 5 จากเกสรดอกไม้ในป่าโกงกางจึงได้สีและรสชาติเฉพาะตัวและน่าประทับใจ

หรือใครที่อยากจะทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดก็คือการล่องเรือดูอุโมงค์ Amazon เป็นการล่องเรือเข้าไปในบริเวณป่าที่สองฝากฝั่งเต็มไปด้วยไม้ใหญ่ทาให้ความรู้สึกราวกับว่าคุณกำลังล่องเรือเข้าไปในป่า Amazon นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ความสวยงามและความสมบูรณ์จากธรรมชาติที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งในระหว่างกิจกรรมนี้ยังมีกิจกรรมการทานข้าวมันทะเลดังที่กล่าวไปแล้วสอดแทรกอยู่

ส่วนใครที่สนใจอยากจะรู้ว่าชาวบ้านเขามีวิถีการทำกินอย่างไร ปากพูนยังมีกิจกรรมการเรียนรู้วิถีทำกินเช่นการเดินหาหอยว่ามีวิธีการอย่างไร ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ร่วมกิจกรรมจะสามารถนำหอยที่หามาได้ไปประกอบอาหารรับประทานกันสด ๆ โดยกิจกรรมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้นับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยทีเดียว

ด้วยความหลากหลายภายใต้แนวความคิด “อิ่ม” นี้เองที่ทำให้ปากพูนเป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจ น่าค้นหาและน่าเข้ามาท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้านการท่องเที่ยวที่อิงแอบไปกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี ชาวปากพูนทุกคนพร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนให้ได้รับประสบการณ์ดี ๆ และกลับออกไปด้วยรอยยิ้มและความประทับใจมิรู้ลืม หากอยากท่องเที่ยวด้วยความ อิ่ม ในทุกมิติ ขอให้ปากพูนคือสถานที่แรกที่คุณจะนึกถึงครับ

Workation ที่ไหนดี @นครศรีธรรมราช

วันนี้จะพามาดูสถานที่ที่เหมาะกับการนั่งทำงานและพักผ่อนสบายๆ สไตล์คนชิลล์ @นครศรีธรรมราช มีสถานที่ให้ Workation มากมาย แต่บทความนี้จะคัดสถานที่สุดชิลล์ ที่เหมาะสมกับการนั่งทำงานและนั่งพักผ่อนหย่อนใจนั่งทำงานมองทัศนียภาพรอบๆฟังเสียงธรรมชาติให้ร่างกายและจิตใจได้ชาร์จแบตอย่างเต็มที่ ไอเดียงานลื่นไหล

Workation ที่ไหนดี @นครศรีธรรมราช แนะนำ 7 สถานที่สุดชิล

1.หมู่บ้านคีรีวง

เครีดิตรูปภาพ https://www.sanook.com/travel/1400081/

เป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่าอากาศดีที่สุดในประเทศไทย เป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มีวิถีชีวิตที่สงบอยู่กับธรรมชาติ หมู่บ้านคีรีวงตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขา ป่าไม้และสายน้ำ ทำให้สามารถนั่งทำงานในโฮมสเตย์ โดยที่สูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด มองต้นไม้และท้องฟ้าได้อย่างเต็มตา ฟังเสียงนกและเสียงน้ำได้อย่างเต็มหู หากอยากจะชมรอบๆหมู่บ้านก็สามารถเช่าจักรยานภายในหมู่บ้านปั่นชมได้ ในหมู่บ้านมีร้านขายของฝาก ของที่ระลึก ส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชาวบ้านผลิตเอง รวมถึงผลไม้ในตลาดก็เป็นผลไม้จากสวนที่ชาวบ้านปลูกเองด้วยเช่นกัน ในช่วงฤดูหน้าผลไม้ ที่ตลาดจะมีทั้งผลไม้สดและผลไม้แปรรูปให้เลือกช้อปปิ้งมากมาย จะเลือกซื้อไปทานหรือจะนำกลับไปเป็นของฝากให้คนที่บ้านก็ดีทั้งนั้น หมู่บ้านคีรีวง ตั้งอยู่ที่ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดให้บริการทุกวัน

2.หาดสิชล

เครดิตรูปภาพ https://www.ryoiireview.com/article/cafe-khanom-sichon/

เป็นหาดทรายสีขาว น้ำทะเลใสๆ หาดโค้งมีทิวทัศน์สวยงาม มีคาเฟ่ให้นั่งชิลล์ริมหาด นั่งทำงานเพลินๆ มองทะเลที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เปิดเพลงคลอเบาๆ ก็ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการ Workation ได้ดีมากๆเลยทีเดียว หาดสิชล ตั้งอยู่ที่ตำบลสิชล อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 18.00 น.

3.ปากพนัง

เครดิตรูปภาพ https://thailandtourismdirectory.go.th/th/attraction/21171

อีก 1 สถานที่เหมาะแก่การ Workation  ปากพนังเมืองท่าที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญและเฟื่องฟูในอดีต เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล พักผ่อนล่องเรือชมโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ชมโรงสีเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ทั้ง 2 ข้างปากแม่น้ำปากพนัง ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมคอนโดนกนางแอ่นอีกด้วย ทำงานเหนื่อยๆ แวะเดินตลาด 100 ปีเมืองปากพนัง ดื่มด่ำกับวิถีความเป็นอยู่ อาคารบ้านเรือนยุคโบราณ วันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ มีตลาดย้อนยุคให้เดิน ดู ดม ชม ชิม อาหารอร่อย บรรยากาศพื้นบ้านมีดนตรีไพเราะเล่นให้ฟังสร้างความสุนทรีผ่อนคลายได้แน่นอน

4.เขาศูนย์

เครดิตรูปภาพ https://www.facebook.com/Nakhonholiday/photos/pcb.7241417082566632/7241415039233503/

เป็นภูเขาที่มีจุดชมวิวที่สามารถชมวิวได้รอบทุกทิศ360 องศา สามารถชมทะเลหมอกกระทบกับแสงอาทิตย์ ท่ามกลางอากาศเย็นๆตลอดทั้งปี ดื่มเครื่องดื่มที่ชอบสักแก้วขณะทำงาน ดื่มดำบรรยากาศที่สบายตา สบายกาย สบายใจ เขาศูนย์ ตั้งอยู่ที่ตำบลไม้เรียง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 18.00 น.

5.เนินเทวดา – เนินนางฟ้า

เครดิตรูปภาพ https://thailandtourismdirectory.go.th/th/attraction/21516

เป็นจุดชมวิวทะเลสีฟ้าคราม ที่รายล้อมด้วยต้นไม้และทิวเขาแบบกว้างไกล มีซุ้มไม้ไผ่ให้นั่งทำงานตากลมชมวิวทิวทัศนียภาพแบบชิลล์ๆ เนินเทวดา – เนินนางฟ้า ตั้งอยู่ที่ตำบลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.

6.เขาเหมน หรือ เขาพระสุเมรุ

เครดิตรูปภาพ https://thailandtourismdirectory.go.th/th/attraction/1858

เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง อากาศหนาวเย็น ลมพัดแรงและมีเมฆปกคลุมเกือบทั้งปี จุดชมทิวทัศน์สามารถมองเห็นวิวโดยรอบ นั่งทำงานพร้อมกับนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกท่ามกลางอากาศเย็นๆ เพลินๆชิลล์ๆ ตลอดทั้งวัน เขาเหมน หรือ เขาพระสุเมรุ ตั้งอยู่ที่ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 21.00 น.

7.อ่างเก็บน้ำกะทูน

เครดิตรูปภาพ https://wellnessnakhon.sct.ac.th/th/?c=todo&a=8&sc=l4&lf=ta&m=topic

ถูกขนานนามว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แดนใต้ เป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานสร้างอ่างเก็บน้ำขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยพื้นที่น้ำในอ่างเหนือเขื่อนใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีซากหมู่บ้านที่เคยเกิดอุทกภัย โผล่พ้นน้ำขึ้นมาให้เห็นยอดชัดเจน สามารถไปนั่งทำงานชิลล์ๆ ที่ริมน้ำได้ มีร้านกาแฟที่สามารถนั่งมองวิวทิวทัศน์กว้างขวางไกลสุดตา 360 องศาของอ่างเก็บน้ำกะทูนท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า แสงตกกระทบผิวน้ำสวยงามมาก ดีต่อตา ดีต่อใจสุดๆ

สถานที่สุดชิลล์ workation@นครศรีธรรมราช คัดมาให้เน้นๆ กับสถานที่ที่เหมาะสมกับการนั่งทำงานและนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ฟังเสียงใบไม้พริ้วไหว ฟังเสียงนก ฟังเสียงน้ำ มองวิวทิวทัศนียภาพอย่างสบายตา ชาร์จพลังให้ร่างกายและสมองอย่างเต็มเปี่ยม รับรองเลยว่าหากมาแล้วจะมีความสุขมากๆ แฮปปี้กับการ workation แบบสุดๆ จนอยากจะมาซ้ำๆ อีกแน่นอน

ยังมีอีกหลายสถานที่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เหมาะแก่การมา Workation มาเปลี่ยนบรรยายกาศที่ทำงานกันที่นครศรีธรรมราช พวกเราชาวนคร ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ นักท่องเที่ยวตลอดเวลา

7 เหตุผลควรมา Workation @ นครศรีธรรมราช

เหตุผลที่ควรมา Workation @ นครศรีธรรมราช ทำงานไปด้วย พักผ่อนไปด้วยที่นครศรีธรรมราช ได้ทั้งงาน ได้ทั้งความสุข ได้ทั้งสุขภาพ จบครบที่เดียว หากจะเลือก Workation สักที่ @นครศรีธรรมราช ก็เป็นหนึ่งจังหวัดที่เราแนะนำ เพราะอะไรไปดูกันเลย

1.อากาศดีมาก จังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งโอโซนที่ดีที่สุดในประเทศ

มีธรรมชาติโอบล้อมทั่วทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่มีครบทั้ง ภูเขา,ทะเล,น้ำตก,ถ้ำ,อ่าว,เกาะ,ป่าไม้ (เป็นเมืองแห่งโอโซน!!) ได้มองน้ำ ดูต้นไม้ สูดอากาศบริสุทธิ์ ตลอดการ Workation การที่ได้ทำงานโดยที่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ นอกจากจะสดชื่น สบายปอดและสบายตาแล้ว ยังส่งผลให้ คิดงานได้อย่างลื่นไหล ไอเดียพุ่งกระฉูดอีกด้วย  เพราะสมองไม่เครียด สมองปลอดโปร่งโล่งสบาย ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆก็วิ่งเข้ามา  ทำให้งานมีไอเดียใหม่ๆเพิ่มเข้าไปด้วย อัพเกรดงานให้ดีขึ้นไปอีก

2. เดินทางสะดวก รถรา เครื่องบิน มีให้เลือกไปไหนมาไหนสะดวก

มีรถโดยสารทั้งในและนอกจังหวัด  ภายในจังหวัดมีสถานีขนส่ง เดินทางไปรอบๆเมืองไปอำเภอใกล้เคียง ไปจังหวัดใกล้เคียง มีรถให้เลือกเดินทางหลากหลายรูปแบบ เช่น รถตู้,รถเมล์,รถสองแถว,รถไฟ และยังมีท่าอากาศยาน สำหรับเดินทาง ทางเครื่องบิน อีกด้วย  มีให้เลือกเดินทาง 5 สายการบินด้วยกัน  นั่นคือ สายการบินไทยสมายล์,นกแอร์,ไทยเวียดเจ็ทแอร์  ไทยแอร์เอเชียและไทยไลอ้อนแอร์  เลือกได้เลย ว่าอยากเดินทางในรูปแบบไหน  เลือกแบบที่คุณแฮปปี้ได้เลย

3. พื้นที่กว้างขวาง ไม่แออัด สามารถนั่งทำงานและพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

ทำงานได้สบายใจ ไม่รู้สึกอึดอัด  เพราะพื้นที่ของจังหวัดนี้นั้น กว้างใหญ่มาก และพื้นที่ธรรมชาติเยอะมาก นั่งทำงานตรงไหนก็ไม่รู้สึกอึดอัด เพราะปลอดโปร่งสุดๆไปเลย  นั่งจิบเครื่องดื่มชิวๆ ไปพร้อมกับการทำงาน ฟินสุดๆ งานก็เดิน ชีวิตกได้ผ่อนคลาย สบายใจ สบายกาย ได้ตังก์ชิลๆ

4. มีความสงบมาก  เหมาะกับการพักผ่อน และหนีความวุ่นวายมาเสริมบุญ

นอกจากธรรมชาติจะเยอะแล้ว ยังมีวัดวาอารามให้เข้าไปทำบุญ ทำทานอีกหลายแห่ง ยกตัวอย่างเช่น

วัดดังของจังหวัดนครศรีธรรมราชตอนนี้ก็คือ “วัดพระมหาธาตุวรวิหาร” เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ บรรจุพระสารีริกธาตุ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและยังเป็นต้นกำเนิดของ  “องค์จตุคามรามเทพ”ที่ตามจารึกของชาวศรีวิชัยได้บอกว่า “มีอานุภาพดุจดังพระอาทิตย์และพระจันทร์ ที่ขจัดความมืดมัวในโลก”

วัดที่สองก็คือ “วัดเจดีย์” วัดไอไข่นั่นเอง  เป็นวัดที่คนหลั่งไหล  เข้ามาขอพร ขอโชค ขอลาภกันไม่ขาดสาย จากกระแสที่หลั่งไหลไปทั่วทุกทิศทุกทางทั่วประเทศ ในเรื่องของการให้โชคให้ลาภ ค้าขาย กิจการงานต่างๆ  นอกจากได้พักผ่อนแล้ว ยังเสริมความเฮงไปในตัวเลย

วัดที่สามก็คือ “วัดธาตุน้อย”เป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์พระสารีริกธาตุและพระสรีระสังขารของพ่อท่านคล้าย (พระครูพิศิษฐ์อรรถการ) ผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่ชาวใต้เลื่อมใสศรัทธาอย่างสูงยิ่ง พ่อท่านคล้ายได้ชื่อว่าเป็น เทวดาแห่งเมืองคอน เทพเจ้าแห่งแดนใต้ ท่านมีวาจาที่ศักดิ์สิทธิ์

พูดอย่างไรได้อย่างนั้น ท่านจึงมักจะให้พรกับทุกคน “ขอให้ เป็นสุข เป็นสุข” ซึ่งปัจจุบันพระสรีระสังขารของพ่อท่านคล้าย บรรจุอยู่ในโลงแก้ว และว่ากันว่าพระสรีระสังขารของท่าน แข็งเป็นหิน จึงทำให้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก

5. มีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำแก้เบื่อ ผ่อนคลายหลังทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย

ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีกิจกรรมสนุกๆให้ทำแก้เบื่ออยู่มากมาย หากว่าคุณอยากยืดเส้นยืดสาย ออกมาจากความสงบชั่วคราว หาอะไรทำสนุกๆแก้เบื่อ มีหลายกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ  หยิบหมอก หยอกเมฆที่เขาศูนย์, เดินป่าดูธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์, เล่นน้ำตกเย็นๆ คลายร้อน,เดินเล่นชายหาดริมทะเล นั่งเรือดูโลมาสีชมพู ,ชมพิพิธภัณฑ์ของดีเมืองนครฯ ยังมีกิจกรรมให้เลือกดู ดม ชม อีกมากมาย ชอบกิจกรรมแบบไหน เรียกว่าครบรส ได้ใจทุกเพศ ทุกวัยในทริปเดียว

6. มีวัฒนธรรมและอารยธรรมที่หลากหลาย

นอกจากได้ทำงานและพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว ยังได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ จากวัฒนธรรมและอารยธรรมของแต่ละชุมชน การละเล่น ประเพณี เช่น มโนราห์ หนังตะลุง  อาจได้อะไรใหม่ๆในชีวิตให้มีสีสันเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีอาหาร  เครื่องแต่งกาย  ของขึ้นชื่อในนครศรีธรรมราช ยกตัวอย่างเช่น ผ้าทอลายดอกกระจูด,ภาพมิตินูนสูงจากรกมะพร้าว,มังคุดคัด ,ปลาใส่อวน,ขนมลา ฯลฯ ให้ได้ลองชิม ลองใช้ ลองสัมผัส รับรองว่าท่านจะหลงรักเมืองนครฯ

7.ร้านคาเฟ่ให้นั่งทำงาน จิบกาแฟเลิศรส โกโก้ขึ้นชื่อ ทั่วจังหวัด

นครศรีธรรมราช เป็นเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีโกโก้พันธุ์ดีที่นำมาทำเป็นช็อคโกแลตจากอำเภอท่าศาลา รวมทั้งกาแฟที่ปลูกจากแหล่งต้นน้ำที่ดีที่สุดนั่นคืออำเภอพิปูน มีร้านกาแฟนั่งสบายๆ ชิลๆ มีมุมให้นั่งทำงาน พร้อมชมวิว จิบกาแฟหอมๆ ดื่มโกโก้ร้อน ๆ คิดแล้วก็ฟิน เลยทีเดียว มีร้านกาแฟ ร้านคาเฟ่ หลากสไตล์ให้เลือกนั่ง เลือกชิล ทั่วจังหวัด ทำให้เมืองนครได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งคาเฟ่ ก็ว่าได้

เพียง 7 เหตุผลนี้ ก็ทำให้อยากไป Workation @ นครศรีธรรมราชทันทีเลยใช่ไหม  แนะนำให้ไปเลยเรียกว่าเป็นอีกจังหวัดที่ครบเครื่องและมั่นใจได้เลยว่า ต้องประทับใจจนได้กลับไปอีกเป็นครั้งต่อๆไป อีกแน่นอน

ตะลุยฝนเที่ยวตลาดเช้าเก่าเเก่กว่า100ปี! @ตลาดท่าแพ นครศรีธรรมราช

นครศรีสเตชชั่นแนะนำที่เที่ยวครั้งนี้  เราจะพาพี่ๆน้อง ๆ และนักท่องเที่ยวทุกท่านไปตะลุยฝนเที่ยวกันที่ ตลาดเช้าเก่าแก่ @ ตลาดท่าแพ  นครศรีธรรมราชบ้านเรากันค่า ไปสัมผัสชุมชนท่าแพในความเรียบง่ายสไตล์พื้นบ้าน และจับจ่ายซื้อของในวันฝนตกกันค่ะ

 

แอดมินจะพาทุกคนไปรู้จักกับชุมชนตลาดท่าแพ ชุมชนเล็กๆแต่มากด้วยประวัติศาสตร์และยังคงความเก่าความแก่มากกว่า100ปี

ในนอดีตท่าแพคือสถานที่ที่จะขึ้นเรือเพื่อเดินทางต่อไปยังกรุงเทพมหานคร และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เวลาประมาณ 06.30 กองกำลังประเทศญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกมาที่ตลาดท่าแพและได้ต่อสู้กับกำลังทหารในบิริณ ตลาดท่าแพ และได้เกิดวีรบุรุษคือ พ่อจ่าดำ ซึ่งเป็นทหารกล้าที่ยืนหยัดต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นในสมัยนั้น ในปัจจุบันเทศบาลตำบลท่าแพ ได้ยกฐานะเป็นเทศบาล เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2542ในเวลาต่อมา

ชุมชนตลาดท่าแพ

 

ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปทางทิศเหนือเพียง 9 กิโลเมตร ในปัจจุบันนี้ชุมชนท่าแพมีสภาพเศรษฐกิจที่พัฒนามากขึ้นทำให้วิถีชีวิตแต่ก่อนจางหายไปบ้างบางส่วน หากแต่ในตอนนี้ก็ยังคงความเป็นท่าแพได้อย่างมีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นตึกราบ้านช่องที่ยังคงกลิ่นไอของบ้านคุณย่าไว้ให้เราได้ชมกัน นอกจากนี้ชุมชนท่าแพยังมีตลาดเช้าที่เก่าแก่ไม่แพ้กัน ตลาดที่มีขนมอร่อยๆ ผักสดๆ ของมากมายที่ค้าขายโดยชาวบ้านในชุมชน เป็นวิถีชาวบ้านที่ยังคงมีให้เห็นในปัจจุบัน

ตื่นตอนเช้าวันฝนตก ตั้งใจจะพาทุกคนลุยฝนไปชมความเป็นตลาดเช้าที่ท่าแพกันค่ะ

ฝนตกแต่ตลาดไม่ปิด พ่อค้าแม่ค้าขายของกันสนุกสนาน แอดมินเก็บภาพบรรยากาศมาให้ทุกคนได้ดูกันค่ะ เช้านี้อยากพาทุกคนไปสัมผัสร้านน้ำชาตอนเช้า นั่งกินไป เสพบรรยากาศตลาดท่าแพไป อิ่มและอร่อยมากๆค่ะ นอกจากนี้ตลาดท่าแพยังมีขนมไทยอร่อยๆมากมาย ราคาน่ารัก สบายกระเป๋าสุดๆ ช้อปกันหอบกลับบ้านไม่ไหวเลยค่า

ผ่านไปผ่านมาอยากให้ทุกคนแวะไปเที่ยวที่ตลาดท่าแพ สัมผัสชุมชนเล็กๆที่คงสเน่ห์และกลิ่นไอความเก่าแก่ในเมืองนครอีกที่หนึ่ง แวะไปอุดหนุนสินค้าพื้นบ้าน ผักปลอดสาร ของกินอร่อยๆกับคุณป้า คุณตาคุณยายกันเยอะๆนะคะ

ตลาดเก่าแก่ ตลาดท่าแพ ตำบลปากพูน นครศรีธรรมราช

เปิดให้บริการเวลา 06:00-18:00 น.

พิกัด: ชุมชนท่าแพ ตำบลปากพูน นครศรีธรรมราช

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : wikipedia.org/เทศบาลตำบลท่าแพ

ชมคลิป VDO

ตะลุยกินในงบ 200บาท ที่ตลาดนัดหมอจวน

นครศรีสเตชชั่นแนะนำที่เที่ยวครั้งนี้  เราจะพาพี่ๆน้อง ๆ และนักท่องเที่ยวทุกท่านไปตะลุยกินกันที่ ตลาดนัดหมอจวน ท่าศาลา นครศรีธรรมราช

มาทำความรู้จักกันว่า “ ทำไมถึงชื่อตลาดหมอจวน ” คุณป้าเพ็ญทิพย์ หรือ ป้าแดงเจ้าของตลาดเล่าให้เราฟังว่า คุณลุงของป้าแดงชื่อหมอจวน เปิดคลินิกอยู่ในตัวอำเภอท่าศาลา ตอนหลัง ป้าแดงไปซื้อที่ตรงตลาดและสร้างหมู่บ้านขึ้นมาและต่อมาสร้างเป็นตลาดขึ้นมา เลยเอาชื่อของคุณลุงมาตั้งเป็นชื่อตลาด เพราะในยุคนั้นคนท่าศาลาไม่มีใครไม่รู้จักหมอจวน และถ้าหากพูดถึง4แยกหมอจวน ถามใครที่ไหนต้องเป็นอันรู้จัก ก่อสร้างตลาดในปีพ.ศ.2535 และได้สร้างศูนย์อาหารให้พ่อค้าแม่ค้าเข้ามาขายข้าว แต่ช่วงนี้เป็นยุคโควิด ทำให้มีพ่อค้าแม่ค้าน้อยลง จวบจนปัจจุบันนี้ก็เปิดเป็นตลาดนัดหมอจวนมาโดยตลอด

ตลาดนัดหมอจวนเป็นอีกหนึ่งตลาดที่เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวท่าศาลาและนักศึกษามหาวิทยาลัยมาก เพราะว่าตลาดนัดหมอจวนมีสินค้าหลากหลาย ราคาน่ารักให้นักช็อปปิ้งอย่างเราๆได้เลือกซื้อของตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นโซนของกินเล่น ขนม อาหารหนัก ก๋วยจั๊บ ผลไม้ โซนของสด กับข้าว ผัดสด โซนเสื้อผ้ามือหนึ่ง และมือสอง โซนรองเท้ามือสอง และอีกมากมาย

และวันนี้แอดมินจะพานักช็อปปิ้งทุกคนไปตะลุยกินในงบ200บาทที่ตลาดนัดหมอจวน จะได้อะไรกันบ้างไปดูกันเลย

ร้านที่ 1 คือร้านเคบับไก่และเนื้อ

วันนี้เราสั่งเป็นเคบับไก่ 1ชิ้น ร้านนี้เป็นอีกร้านที่แอดมินต้องยกนิ้วให้กับรสชาติของเคบับ ถูกปากและอิ่มในชิ้นเดียว เพราะทางร้านให้ไก่เน้นๆผัดราดซอสจุกๆ ม้วนโตๆ สนนราคาอยู่ที่30บาทเท่านั้น

ร้านที่2 คือร้านขนมถังทอง

ขนมร้านนี้เป็นอีกหนึ่งเจ้าที่อร่อยมากๆและขายดีสุดๆ หากทุกคนไปตลาดช้า จะอดกินขนทถังทองร้านนี้แน่นอน ขนมถังทองร้านนี้มีหลายไส้ให้ได้เลือกทานกัน ทางเราเลยไม่พลาดที่จะจัดมา2ชิ้น ในราคา 20บาท

ร้านที่3 คือร้านเฉาก๊วยชากังราว

หากไปตลาดนัดหมอจวนไม่ได้ยินเสียงโฆษณาเฉาก๊วยน่าจะไปไม่ถึง เดินมาร้อนๆต้องดับร้อนด้วยเฉาก๊วยนมสดรากน้ำตาลแบบฉ่ำๆกันเลย เราก็จัดไป1แก้วแบบไม่ปล่อยให้พลาดกันเลย สนนราคาแก้วยละ25บาท

ร้านที่4 คือร้านก๋วยจั๊บ

เดินมานานๆเริ่มหิวแล้วแอดมินเลยมาหาของหนักๆไปกินที่ห้อง วันนี้เลยเลือกก๋วยจั๊บเจ้าประจำ ร้านนี้น่าจะเป็นร้านประจำของเด็กมหาลัยก็ว่าได้เลย ทางร้านมีเส้นให้เลือกเยอะมากๆและสามารถบอกได้ว่าจะใส่เครื่องอะไรบ้าง ให้กันแบบอิ่มใน1ถุง สนนราคาก๋วยจั๊บอยู่ที่ถุงละ 40บาท

ร้านที่5 คือร้านเครปไส้จุกๆ

มาต่อด้วยของหวาน มีของคาวต้องมีของหวานตามลำดับ เครปร้านนี้มีไส้เยอะมากให้เลือก ทางเราไม่พลาดเลยที่จะสั่ง3ไส้เน้นๆ สนนราคาแผ่นละ35บาท อิ่มกันในหนึ่งแผ่นเลย งบยังเหลือแอดมินพาไปต่อร้านต่อไปเลย

ร้านที่6 รองเท้ามือสอง

สวรรค์ของคนรักของมือสองแบบแอดมิน ไม่พลาดที่จะมาโซนรองเท้า ช่วงนี้อยากได้รองเท้าวิ่งซัก1คู่ไม่พลาดที่จะจัดคู่เด็ดๆ ในโซนนี้จะใช้เวลานานเป็นพิเศษ และแล้วเราก็ได้มา1คู่ ราคาคู่ละ50บาทนั่นเองค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน งบ200บาทที่ตลาดนัดหมอจวน ได้ของทั้งคาว หวานของกินเล่นและรองเท้า แบบจุกๆกันเลย หากทุกคนผ่านท่าศาลาหรืออยู่ในแถวท่าศาลา อย่าลืมแวะไปเที่ยวและอุดหนุนพ่อค้าแม่ขายกันด้วยนะคะ

  • ตลาดนัดหมอจวนจะเปิดบริการทุกวันพุธ
  • เวลา 15:00-19:00น.
  • พิกัด: สี่แยกโลตัส ติดกับปั๊มบางจาก

ชมคลิป

ชวนเที่ยวหาดท่าสูงท่าศาลา กับ 5 กิจกรรมที่ห้ามพลาด

นครศรีสเตชชั่นแนะนำที่เที่ยวครั้งนี้  เราจะพาพี่ๆน้อง ๆ และนักท่องเที่ยวทุกท่านไปเที่ยวกันที่ริมหาดท่าสูงบน ท่าศาลา นครศรีธรรมราช และวันนี้แอดมินจะมานำเสนอ 5 กิจกรรมที่ทำเมื่อไปเที่ยวริมหาดท่าสูงมีกิจกรรมอะไรบ้างไปดูกันเลย..

หาดท่าสูง ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 4 ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช มีลักษณะหาดยาว ทรายขาว ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง ค้าขายและรับจ้าง เป็นชุมชนขนาดเล็ก ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม เป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก มีร้านอาหารขายให้บริการและลาดชายหาดที่มีขนาดกว้างเหมาะสำหรับพักผ่อนใวันหยุดอย่างสบายๆ มาสัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชน เพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดๆใหม่ๆ กับบรรยากาศสายลมพัดเบา ๆ ลงตัวที่สุดเลยแอดมินรับประกัน…

 

5 กิจกรรมที่ทำเมื่อมาเที่ยวที่ริมหาดท่าสูง

กิจกรรมที่ 1 เดินซื้อของกินที่ถนนคนเดินริมหาด

ถนนคนเดินริมชายหาดจะเปิดให้บริการวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา15:00 –18:00 น. เรียกได้ว่าเป็นอีก1ที่ที่มีของกินเยอะมาก หลายหลายอย่าง ทั้งของคาวและของหวานตลอดจนเสื้อผ้าต่างๆที่ให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้เลือกซื้อแอดมินแนะนำกำเงินไปเยอะๆไปช็อปปิ้งกันที่ถนนคนเดินริมชายหาดท่าสูง นอกจากนี้ที่ริมหาดสามารถซื้อของที่ถนนคนเดินไปนั่งทานริมทะเล มีบริการเช่าเสื่อให้นั่งทานอาหารรับลมกันแบบฟิน ๆเลยล่ะค่ะ

กิจกรรมที่ 2 นั่งชิลกับครอบครัวและเพื่อน ๆ

เป็นอีกที่เลยก็ว่าได้ที่เป็นจุดนัดพบกับเพื่อนๆ หรือการมาพักผ่อนสุดสัปดาห์กับครอบครัวเปลี่ยนที่ทานข้าวมานั่งทานของอร่อยๆรับลมฟิน ๆที่ริมทะเล เหมาะกับการพาเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุมานั่งผ่อนคลายได้ การนัดเจอกับเพื่อนๆนั่งคุยกันกินข้าวท่ามกลางบรรยากาศที่ดี

กิจกรรมที่ 3 เล่นว่าว

หากพูดถึงช่วงนี้นิยมสุดๆในเด็กๆคงจะเป็นว่าวล่ะค่ะ เพราะช่วงต้นมกราคม-กุมภาพันธ์จะเป็นฤดูการละเล่นว่าวของคนที่นี่กัน เป็นอีกกิจกรรมที่นิยมมาก ๆ ในการมาริมหาดท่าสูง เราจะเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยว่าวเลยก็ว่าได้ แอดมินแนะนำเลยค่ะ เพราะตอนนี้ลมทะเลแรง เล่นว่าวได้สนุกสุด ๆแน่นอน คอนเฟิร์มค่ะ

กิจกรรมที่ 4 เล่นน้ำ ว่ายน้ำทะเล

ขึ้นชื่อว่ามาทะเลเมื่อเอ่ยปากที่บ้านเด็กๆต้องร้องกรี๊ดอย่างแน่นอน เพราะเป็นกิจกรรมสุดโปรดปรานของเด็กๆทุกคน และกิจกรรมนี้ผู้ปกครองสามารถนั่งดูน้อง ๆ เล่นน้ำได้อย่างสะดวกโดยที่ไม่ต้องเดินลงไปแล สามารถนั่งบนหาดแล้วดูแลน้อง ๆ ได้อย่างสะดวก

กิจกรรมที่ 5 เล่นฟุตบอลและกิจกรรมนันทนาการอื่นๆ

กิจกรรมนี้น้อง ๆก็จะนำลูกบอลมาเตะกันที่หาดเพราะมีพื้นที่ที่กว้าง สามารถเล่นได้สะดวก และมีกิจกรรมนันทนาการอื่นอีกมากมาย ตัวอย่างเช่น การก่อปราสาททราย การร่อนพารามอเตอร์ การเล่นฟุตบอลชายหาด และอีกมากมาย

นอกจากนี้ริมหาดท่าสูงไม่ได้มีแค่เพียงถนนคนเดินแต่ยังมีร้านอาหารซีฟู้ดริมทะเลอีกมากมายที่คัดสรรอาหารสด สะอาดและอร่อยไว้ที่เดียว หากใครผ่านไปผ่านมาอย่าลืมแวะเวียนเข้ามาเที่ยวที่ริมหาดท่าสูง ปักหมุดที่เที่ยวใหม่ๆ เตรียมกล้อง สะพายกระเป๋าแล้วมาเที่ยวกันที่ริมหาดท่าสูงกันนะคะ

สวนวลัยลักษณ์และ5กิจกรรมในสวนวลัยลักษณ์

นครศรีสเตชชั่นแนะนำที่เที่ยวครั้งนี้  เราจะพาพี่ๆน้อง ๆ และนักท่องเที่ยวทุกท่านไปเที่ยวกันที่สวนวลัยลักษณ์ หรือ WU PARK และวันนี้แอดมินจะมานำเสนอ5กิจกรรมที่ทำเมื่อไปสวนวลัยลักษณ์มีกิจกรรมอะไรบ้างไปดูกันเลย..

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับสวนวลัยลักษณ์ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ?

 

ด้วยแนวคิดหลักของ ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ที่ต้องการให้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นแผ่นดินแห่งความรุ่งโรจน์ Walailak Land of Glory จึงเกิดเป็นสวนวลัยลักษณ์  สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2560-2561 เป็นสวนสาธารณะที่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของบุคลากรของมหาวิทยาลัย ทั้งคณาจารย์ พนักงานและนักศึกษา พี่น้องประชาชนชาวอำเภอท่าศาลา ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชและใกล้เคียง ตลอดจนผู้ที่มาเยี่ยมเยียนมหาวิทยาลัยจากในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้มีการเปิดโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ สวนวลัยลักษณ์จะเป็นแหล่งให้ผู้มาใช้บริการของโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ฯ ได้พักผ่อน สร้างความสดชื่นได้ทั้งกายและใจ

 

สวนวลัยลักษณ์ ตั้งอยู่บริเวณถนนทางเข้ามหาวิทยาลัย ตรงข้ามกับโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 255 ไร่ แบ่งเป็นผืนน้ำ 130 ไร่และผืนดิน 125 ไร่ โดยภายในสวนวลัยลักษณ์จะมีจุดเด่นอยู่ที่ลานมโนราห์สีทอง มีระเบียงน้ำให้ผู้มาเยี่ยมเยียนได้นั่งพักผ่อน ให้อาหารปลา พร้อมนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินผ่านภูเขาหลวงซึ่งเป็นทัศนียภาพ ที่งดงามยิ่งเป็นเบื้องหลัง

 

นอกจากนี้ยังมีความร่มรื่นเขียวขจีของต้นไม้นานาชนิดและไม้ดอกไม้ประดับนานาพรรณ มีการจัดสวนรูปแบบต่างๆ สวนอังกฤษ สวนญี่ปุ่น ลานมโนราห์สี รูปปั้นโขลงช้าง น้ำพุนกฮูก เส้นทางการวิ่ง เส้นทางการปั่นจักรยาน และที่โด่งดังและท้าทายมากคือ เขาวงกต “เข้าแล้ว ออกได้หรือไม่?”

5กิจกรรมที่ทำเมื่อมาเที่ยวสวนวลัยลักษณ์

กิจกรรมที่1 วิ่งออกกำลังกาย

เปิดให้ผู้คนทั่วไปได้วิ่งออกกำลังชมความเขียวขจีของต้นไม้และรับอากาศบริสุทธ์ของสวนวลัยลักษณ์ มีทั้งเส้นทางการเดิน-วิ่งทั่วทั้งสวน เหมาะแก่การไปออกกำลังกายชิวสุดๆ

กิจกรรมที่ 2 ปั่นจักรยาน

 

ปั่นจักรยานผ่านสวนวลัยลักษณ์ชมความเขียวขจีขแงต้นไม้นานาชนิดและรับลมธรรมชาติทั่วทั้งสวน มีเส้นทางจักณยานพาดทั่วทั้งสวนเป็นแนวยาวตลอดสายจะมีวิวทิวทัศน์ที่ทำให้เพลิดเพลินกับการปั่นจักรยานสุดๆ

กิจกรรมที่ 3 ปั่นเรือเป็ดและให้อาหารปลา

เป็นอีก 1 กิจกรรมสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจของผู้ที่มาเที่ยวสวน กิจกรรมที่สนุกและท้าทาย มีทั้งการให้อาหารปลาควบคู่ไปกับวิวที่สวยงามของทะเลสาบในสวน และปล่อยใจให้ผ่อนคลายกับสถานที่พักผ่อน มีร้านขายขนมให้ได้เบือกซื้อนั่งทานชมความสวยงาม

กิจกรรมที่4 มาพักผ่อนกับครอบครัว

สวนวลัยลักษณ์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถมาเที่ยวกับครอบครัวได้ มาทำกิจกรรมร่วมกันไม่ว่าจะเป็นการทานข้าวข้างนอก ริมทะเลสาบในสวน การพาเด็กๆมาวิ่งเล่น จนกระทั่งผู้สูงอายุ พามาผ่อนคลายความเครียด หรือเปลี่ยนที่ถ่ายรูป รับลมเย็นๆกับบรรยากาศที่ร่มรื่นเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลยค่ะ

กิจกรรมที่ 5 ชมวิวพระอาทิตย์ตก

เป็นอีกที่ในสวนที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเนื่องจากวิวตรงนี้สวยมากๆแอดมินแนะนำสุดๆ ระเบียงริมทะเลสาบกับวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สีสวยมากๆพักผ่านเทือกเขาหลวงที่เห็นได้ชัดสุดๆ

ใครผ่านไปผ่านมาอย่าลืมแวะเวียนเข้ามาเที่ยวสวนวลัยลักษณ์ ปักหมุดที่เที่ยวใหม่ๆ เตรียมกล้อง สะพายกระเป๋าแล้วมาเที่ยวกันที่สวนวลัยลักษณ์กันนะคะ

 

ข้อปฏิบัติการใช้สวนวลัยลักษณ์

  1. วันเวลาเปิด-ปิดทำการ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึงเวลา 20.00 น.
  2. สวนวลัยลักษณ์แห่งใช้เพื่อการออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ หรือทำกิจกรรมนันทนาการตามที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
  3. การใช้วัสดุอุปกรณ์ในการออกกำลังกาย สวน เพื่อการออกกำลังกายให้ระวังอุบัติเหตุพลัดตกลงไปในบ่อน้ำ หรืออุบัติเหตุอื่น หากเกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินมหาวิทยาลัยจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
  4. ให้ช่วยกันรักษาความสะอาดบริเวณสวน และทรัพย์สินทุกชนิดภายในสวนและไม่ทำลายทรัพย์สินด้วยประการใดๆ
  5. ให้ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อห้าม หลักเกณฑ์ คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยโดยเคร่งครัด

ข้อห้าม

  • ห้ามนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้าในพื้นที่สวนวลัยลักษณ์โดยเด็ดขาด
  • ห้ามเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ตกแต่งสวนและต้นไม้ภายในสวน
  • ห้ามปล่อยปลาชะโดลงในแหล่งน้ำ
  • ห้ามเข้าในห้องปั๊มหลังน้ำตก
  • ห้ามปีนช้างและห้าเข้าในบริเวณช้าง
  • ห้ามปีนมโนราห์
  • ห้ามจับสัตว์น้ำทุกชนิด
  • ห้ามเข้าเขาวงกตในช่วงเวลา 18.00 – 08.00 น.
  • ห้ามปีนต้นไม้ และเก็บลูกมะพร้าว
  • ห้ามนำต้นไม้และอุปกรณ์ตกแต่งสวนออกจากสวนโดยเด็ดขาด
  • ห้ามเปิดน้ำพุ น้ำตก ระบน้ำในสวนและระบบไฟหากไม่ได้รับอนุญาติ
  • ห้ามใช้สวนวลัยลักษณ์หลังเวลา 20.00 – 05.00 น.
  • ห้ามผู้ใด ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยที่อยู่ภายในสวน
  • ห้ามผู้ใด เล่นฟุตบอล ตะกร้อ หรือกีฬาใดๆในสวน เว้นแต่เป็นการเล่นในสถานที่จัดไว้โดยเฉพาะ
  • ห้ามผู้ใด เล่นการพนัน เสพสุรา ของมึนเมาและสารเสพติดทุกชนิดในบริเวณที่สวน
  • ห้ามผู้ใด นำ พกพา อาวุธ ทุกชนิด ยิงปืน หรือใช้ดินระเบิด จุดปะทัด หรือก่อการทะเลาะวิวาทในบริเวณสวน
  • ห้ามผู้ใด ลักขโมยทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยภายในบริเวณสวน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ส่วนสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์