คุณเฉลิม จิตรามาศ ประชาสัมพันธ์ศาสนา สารานุกรมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร คนต้นแบบเมืองนคร
ศาสนามีความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนและการจัดระเบียบสังคม บางส่วนของวัฒนธรรมมีรากฐานมาจากศาสนา ศาสนสถานเป็นศูนย์กลางของชุมชนที่หลอมรวมศรัทธาของผู้คนในชุมชนเข้าไว้ด้วยกัน แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจถึงแก่นแท้ของศาสนา สามารถรักษาคุณค่าและสืบทอดไปสู่คนรุ่นหลังได้ อย่างที่ฅนต้นแบบเมืองนครท่านนี้เข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดี ทำงานอย่างเต็มความสามารถ ขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ในวัดให้เป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสม คุณเฉลิม จิตรามาศ ประชาสัมพันธ์ศาสนา สารานุกรมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
ชีวิตวัยเด็กที่เติบโตมากับวัด และความชื่นชอบทางด้านพุทธศิลป์
คุณเฉลิม จิตรามาศ เกิดในปีพ.ศ. 2499 เป็นคนนครศรีธรรมราชแต่กำเนิด ชีวิตในวัยเด็กมีความใกล้ชิดกับวัด เรียกได้ว่าเข้าออกวัดบ่อยราวกับเป็นบ้านอีกหลัง ทำหน้าที่เป็นศิษย์วัดเดินตามพระบิณฑบาตรแทบทุกเช้า หลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 คุณเฉลิมได้บวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จากนั้นบวชเรียนนักธรรมชั้นตรีและภาษาบาลีประมาณปีกว่า แล้วย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดยะลาธรรมาราม จ.ยะลา
หลังจากสอบนักธรรมชั้นโท จึงได้เดินทางกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดมะม่วงปลายแขน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นวัดแถวบ้านที่คุ้นชินตั้งแต่เด็ก จากนั้นถูกส่งไปเรียนบาลีที่วัดธรรมบูชา จ.สุราษฎร์ธานี และสอบได้นักธรรมชั้นเอกในเวลาต่อมา ปีพ.ศ. 2514 เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์จึงได้บวชเป็นพระภิกษุ และถูกส่งตัวไปที่กรุงเทพมหานคร เข้าศึกษาหลักสูตรพระปริยัติธรรม
นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณเฉลิมมีโอกาสได้ศึกษาเรื่องโบราณสถาน และความรู้ทางด้านพุทธศิลป์ตามศาสนสถานต่างๆ จนเกิดเป็นความชื่นชอบ และสามารถถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาสู่พุทธศาสนิกชนได้
จากงานช่างซ่อมวิทยุและโทรทัศน์ สู่ประชาสัมพันธ์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
หลังจากบวชเป็นพระภิกษุได้สามพรรษาก็ได้ลาสิกขา และตัดสินใจเรียนการซ่อมวิทยุและโทรทัศน์เพื่อยึดเป็นอาชีพหลัก จากนั้นได้เดินทางไปทำงานที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา และกลับนครศรีธรรมราช เพื่อไปเป็นครูผู้ช่วยสอนซ่อมวิทยุและโทรทัศน์ คุณเฉลิมได้รับการทาบทามจากลูกศิษย์ที่มาเรียนให้ไปร่วมงานกับทางบริษัทระหว่างที่ทำงานอยู่ที่นั่นก็ได้มีโอกาสได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ หลังจากที่ทำงานสักระยะหนึ่งจึงตัดสินใจลาออกจากบริษัท เพื่อมาเปิดร้านซ่อมวิทยุและโทรทัศน์เอง
ในช่วงที่กลับมาอยู่นครศรีธรรมราชก็ได้ทราบว่าประชาสัมพันธ์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารคนปัจจุบัน(ในตอนนั้น)ตั้งใจจะลาออก แต่ไม่สามารถลาออกได้ เนื่องจากต้องรอให้มีคนมารับช่วงต่อ คุณเฉลิมได้รับคำชักชวนจากบุคคลที่ช่วยประสานงานให้กับทางท่านเจ้าคุณเพื่อให้มารับตำแหน่ง เมื่อโอกาสมาถึงจึงไม่รีรอที่จะตอบรับ ตลอดระยะเวลาในการทำงานคุณเฉลิมได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ นำความรู้จากช่วงที่บวชเป็นพระภิกษุมาประยุกต์ใช้กับงานอย่างเหมาะสม และคอยรับมือกับปัญหาต่างๆ อะไรที่ไม่ถูกต้องก็พยายามปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามแนวทางที่ควรจะปฏิบัติ
มุมมองความคิด และแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต
คุณเฉลิมเชื่อว่าแต่ละคนมีบทบาทหน้าที่ต่างกัน ประชาสัมพันธ์วัดไม่ใช่แค่การขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ในวัด แต่ต้องหัดสังเกตุเรียนรู้ เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเป็น ศาสนสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของภาคใต้ ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพอยากไปสักการะพระบรมธาตุเจดีย์สักครั้งหนึ่งในชีวิต ทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่เดินทางไปเยี่ยมชม โดยเฉพาะในช่วงที่ทางวัดมีการจัดงานแห่ผ้าขึ้นธาตุในวันมาฆบูชาของทุกปี
ถือเป็นงานบุญประจำปีที่เนืองแน่นไปด้วยพุทธศาสนิกชนทั้งจากนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์เป็นประเพณีที่กระทำผ่านความเชื่อและศรัทธาว่าการที่ได้ทำบุญในครั้งนี้เป็นมหาบุญใหญ่ และส่งเสริมความเป็นสิริมงคลในการใช้ชีวิต กิจกรรมที่จัดขึ้นภายในวัดจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งก็เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พุทธศาสนิกชนที่ตั้งใจมาร่วมทำบุญในครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ดี ให้ได้รับความอิ่มบุญ อิ่มเอมใจกันถ้วนหน้า
มุมมองการใช้ชีวิตของคุณเฉลิมในวัยใกล้ 70 ให้ความเห็นที่น่าสนใจไว้ว่า ความเชื่อของคนเป็นเรื่องที่ยากจะเปลี่ยนแปลง แต่ละคนจะมีชุดความเชื่อที่ยึดมั่นกันมานาน ได้รับการปลูกฝังมาจากครอบครัวและชุมชน ความเชื่อที่แข็งแกร่งมักจะหยั่งรากลึกหลอมรวมกลายเป็นส่วนหนึ่งของบุคคลนั้น แสดงออกให้เห็นทางการกระทำ หากพูดถึงสิ่งที่เปรียบเสมือนหลักเมืองของศาสนาพุทธ นั่นคือ หลักธรรม เพราะแต่ละศาสนามีความเชื่อและหลักปฏิบัติที่ต่างกัน เราต้องเข้าใจความแตกต่าง แม้แต่คนในศาสนาเดียวกันก็ยังเชื่อและปฏิบัติต่างกัน อย่าเพิ่งเอาความคิด ความเชื่อของตัวเราเองไปยัดเยียดให้คนอื่น ลองตั้งใจรับฟังพยายามมองโลกอย่างเป็นกลางให้มากที่สุด หัดเรียนรู้เรื่องอื่นๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เพื่อให้เข้าใจคนอื่นมากขึ้น แม้จะคิดต่างกันแต่ต้องเคารพซึ่งกันและกัน จึงจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
เพราะชีวิตไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน จึงต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ เพื่อให้เกิดปัญญา รู้จักขบคิด วิเคราะห์แยกแยะในมิติต่างๆ ของข้อมูลที่ได้รับมา เชื่ออย่างมีเหตุมีเหตุ ควบคู่กับการเรียนรู้ฝึกฝนพัฒนาตนให้ดียิ่งขึ้น การพัฒนาจิตใจให้ทันกับความทันสมัยที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นนั่นเอง
ชมรายการ Live สด “ฅนต้นแบบ งานต้นแบบ เมืองนคร” ได้ทุกวันจันทร์ เวลา ๑๙.๓๐-๒๐.๓๐ น. ได้ที่นี่
*****************************************
ร่วมสนับสนุนผลิตสื่อ “สร้างรายได้ชุมชน กระตุ้นการท่องเที่ยว” ติดต่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ธุรกิจ นำสินค้ามาขายร่วมกัน Nakhonsistation 092-6565-298 คุณ เกียรติ