Skip to content

สาวชุม-หนุ่มสุวรรณ ตำนานรักพระลากเมืองนคร

สาวชุม-หนุ่มสุวรรณ
ตำนานรักพระลากเมืองนคร

 

บ้านนาพรุ

ในครั้งเมื่ออดีตกาล บ้านนาพรุ มีเศรษฐีคนหนึ่งที่มั่งคั่ง ร่ำรวยเป็นอย่างมาก ชาวบ้านจึงขนานนามกันว่า “เศรษฐีบ้านพรุ” ท่านกับภรรยามีบุตรสาวที่รักปานแก้วตาดวงใจ มีนามว่า “ชุม” สาวชุม จึงเป็นที่ หมายปองของชายหนุ่มทั้งหลายโดยรอบบริเวณนั้นรวมถึง “หนุ่มสุวรรณ” บุตรชายของเศรษฐีบ้านท้ายสำเภา  ผู้มีฐานะทัดเทียมกับเศรษฐีบ้านนาพรุ หนุ่มสุวรรณได้เจอกับสาวชุมครั้งแรก  ก็ได้หลงรัก และ   มีใจให้สาวชุม วันเวลาผ่านไปหลังจากนั้นทั้งสองก็รักกัน ด้วยความรักที่มีให้หนุ่มสุวรรณกับสาวชุมจึงได้ตกลงคบหากัน โดยเป็นที่ทราบกันของเศรษฐีทั้งสองฝ่าย ด้วยความรักที่มีให้กันเป็นเวลานาน  หนุ่มสุวรรณ จึงบอกกับบิดา มารดาว่า จะขอหมั้นหมายแต่งงานกับสาวชุมลูกเศรษฐีนาพรุ  ทางฝ่ายสาวชุมเมื่อทราบข่าว ถึงวันที่หนุ่มสุวรรณจะมาขอหมั้นหมายแต่งงานกับลูกสาว อันเป็นที่รัก ก็ได้ตอนรับเป็นอย่างดี  ด้วยเหตุที่ว่าหนุ่มสุวรรณเป็นคนดี มีคุณธรรมนำชีวิต เศรษฐีนาพรุ บิดา มารดา ของสาวชุมจึงตกลงกันยกสาวชุมเป็นคู่หมั้น หนุ่มสุวรรณ ก่อนแต่งงานสมรส

.

ไข้น้ำระบาด

หลังจากนั้นวันเวลาผ่านไปไม่นาน ได้เกิดโรคระบาดอย่างหนัก “ ไข้น้ำ ” หรือ ไข้ทรพิษ ขึ้นในแถบบ้านนาพรุและบริเวณใกล้เคียง ปรากฏว่าสาวชุม ได้ล้มป่วยลงด้วยโรคระบาด จนสุดความสามารถ ที่หมอทั้งหลาย จะพยายาม เยียวยารักษาให้หายได้ แต่ในความทุกข์  ของสาวชุมนั้น  หนุ่มสุวรรณ ซึ่งเป็นคนรัก ก็ยังคงเคียงข้าง ไม่ทิ้งไปไหน ไม่รังเกลียดคนรัก   แม้คนรักจะมีแผลอันน่าเกลียด มีร่างกายที่ซีดผอมจากพิษของโรคร้าย หนุ่มสุวรรณก็ดูแลเคียงค้างจนวินาทีลมหายใจสุดท้ายที่สาวชุม ซึ่งเป็นคนที่รักมาก ของตัวเองจากไป  จนทำให้หนุ่มสุวรรณนั้นเกิดความเสียใจ  ซึมเศร้า เป็นอย่างมาก เพราะรักแท้ที่มีให้กับสาวชุม หนุ่มสุวรรณจึงตรอมใจลง จนร่างกายป่วยไข้   และสิ้นชีพตามสาวชุมคนรักในเวลาแค่ไม่กี่วัน

.

สาวชุม หนุ่มสุวรรณ

การจากไปของชายหนุ่ม และ หญิงสาว คู่นี้ ได้สร้างความเสียใจแก่บิดา มารดาทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมาก เศรษฐีนาพรุกับเศรษฐีท้ายสำเภา จึงยกที่ดินส่วนหนึ่งสร้างวัด และให้นายช่างหล่อพระลากกลุ่มหนึ่ง มาสร้างพระพุทธรูป เพื่ออุทิศบุญกุศลให้บุตรธิดาทั้งสอง โดยได้หล่อพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร พระเกศรัศมียอดเปลวเพลิงไว้องค์หนึ่ง แต้มปาก ทาเล็บทั้งหมดให้เป็นสีแดง เพื่อเป็นพระพุทธรูปแทนตนของ “ สาวชุม ” บุตรสาวเศรษฐีบ้านนาพรุ และได้สร้างพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรอีกองค์หนึ่ง ทรงเครื่อง เพื่อให้เป็นพระพุทธรูปแทนตัวของ “หนุ่มสุวรรณ” เมื่อช่างหล่อพระได้ขัดสีตบแต่งเรียบร้อยแล้วเศรษฐีทั้งสองก็ได้นิมนต์ พระภิกษุมารับถวายพระพุทธรูป พร้อมกับอุทิศผลานิสงส์ให้ไปถึงสาวชุม และ หนุ่มสุวรรณ บุตรธิดาผู้วายชนม์

.

พระแม่ชุม

ภายหลังจากทำพิธีอุทิศพลานิสงส์ พระลาก พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ที่เศรษฐีนาพรุ ได้สร้างถวายวัดนั้น  ได้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น ในตอนนั้นต่อหน้าผู้คนเป็นจำนวนมาก ที่พระพุทธรูป มีพุทธลักษณะเป็นตำหนิ เหมือนรอยแผลเป็นก่อนที่สาวชุม  จะเสียชีวิต เศรษฐี และชาวบ้านทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกตลึง เมื่อเห็นพระพุทธรูป  มีพุทธลักษณะ เหมือนสาวชุม ด้วยความศรัทธาของชาวบ้านนาพรุ-บ้านท่าช้าง-บ้านท้ายสำเภา หลังจากนั้นชาวบ้านจึงเรียกพระลากองค์นี้ว่า แม่ชุม หรือ พระแม่ชุม

.

พระลากแม่ชุมวัดท่าช้าง อยู่คู่กับชาวนาพรุ-ท่าช้าง เป็นเวลายาวนาน มีการเชิญลงมาสรงน้ำในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ และ ในช่วงเทศกาลออกพรรษาของทุกปี พระลากแม่ชุมได้รับความศรัทธา นับถือ จากผู้คนในย่านอำเภอพระพรหม ว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ใน

.

ด้านความรัก = ถ้าใครได้มากราบไหว้บูชา จะสมหวังในความรักที่มั่นคง มีศุภผลดลบันดาลให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข คนที่เป็นโสดอยู่ ก็จะมาบูชาเพื่อหาเนื้อคู่ที่ดี เหมาะกับตน เนื่องจากพระพุทธรูปองค์นี้ เป็นตัวแทนแม่ชุม-พ่อสุวรรณ ที่ทั้งสองมีรักแท้ ไม่ทอดทิ้งกัน จนวันตายจาก ก็ต้องไปด้วยกัน

.

ด้านค้าขาย = พ่อค้า แม่ขาย ก็จะนิยมมาสักการะพระแม่ชุม เนื่องจากเชื่อว่า พระแม่ชุมเป็นบุตรีของเศรษฐี จึงมีความนิยมว่า ถ้าขอพรพระแม่ชุมแล้ว จะทำมาค้าขาย อะไรก็ดี และมีความมั่งคั่งมีอัตภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

.

ด้านเมตตา = ชาวบ้านจะมาบนบาน ขอให้พระแม่ชุมช่วยในด้านต่าง ๆ เช่น ขอโชคลาภ ขอให้สำเร็จในการงาน  ขอให้สอบผ่าน  ขอให้มีงานทำ ขอให้ของที่หาย ได้กลับคืนมา

.

ดังนั้นพระแม่ชุม แห่งวัดท่าช้าง จึงมีผู้ศรัทธาเข้ามาสักการะอยู่บ่อย ๆ เพราะเหมาะกับการบูชา แก่ผู้ที่ต้องการแสวงหาความมั่นคงในความรัก ผู้ที่ประกอบอาชีพค้าขาย รวมถึงผู้ที่ต้องการความอบอุ่นในครอบครัวให้บังเกิดผลประสบความสำเร็จดั่งปรารถนา เมื่อชีวิตส่วนตัว และชีวิตในหน้าที่การงานสมบูรณ์พร้อม ความสุขที่ยั่งยืนก็พร้อมที่จะบังเกิดขึ้น เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่ ปุถุชนพึงควรมี เพื่อจะก้าวหน้าไปทั้งทางโลก และ ทางธรรม ดั่งพระแม่ชุม วัดท่าช้าง และ พระพุทธเศรษฐีศรีสุวรรณ วัดท้ายสำเภา ซึ่งเป็นตำนาน พระลากคู่รัก เมืองนคร ที่อยู่คู่วัด คู่บ้าน คู่เมือง เสมอมา ถึงแม้ว่าจะอยู่คนละวัด แต่ดวงจิตที่ยังคงมั่นในรัก และผูกพัน ก็คงยังอยู่คู่กัน ให้เป็นที่กล่าวขวัญเป็นที่สักการบูชา ของลูกหลานชาวพระพรหมเป็นเวลาหลายร้อยปี สืบไป

ภาพและข้อมูลจาก Facebook : วัดท่าช้าง นครศรีธรรมราช